News
บีซีพีจีพร้อมเดินหน้าโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศ ตั้งเป้าเพิ่ม 30 เมกะวัตต์ในปีนี้
บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) พร้อมเดินหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร (โซลาฟาร์ม) หลังจากการประกาศผลจับสลากของสำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีโครงการที่บีซีพีจีสนับสนุนผ่านการคัดเลือก 2 โครงการ กำลังการผลิตรวมประมาณ 9 เมกะวัตต์ และยังมีแผนลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนรูปแบบอื่นๆ โดยตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตภายในประเทศรวมประมาณ 30 เมกะวัตต์ภายในปี 2560
หลังจากสำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศผลจับสลากโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2560 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า มีโครงการที่กลุ่มบริษัทบีซีพีจีสนับสนุนผ่านการคัดเลือก 2 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 8.94 เมกะวัตต์ คือ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลพบุรี) กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตสุพรรณบุรี) กำลังการผลิต 3.94เมกะวัตต์
ทั้งนี้ การสนับสนุนโครงการโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร (โซลาร์สหกรณ์) เป็นไปตามนโยบายของบริษัทในการดำเนินงานที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรและสังคม ตามแนวทางการทำกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) โดยนายประมวญ โสนน้อย รองประธานสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง หนึ่งในผู้ร่วมดำเนินการโครงการโซลาร์สหกรณ์ระยะที่ 1 ของบีซีพีจี กล่าวว่า สหกรณ์ฯ ขอขอบคุณบีซีพีจี ที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการโซลาร์สหกรณ์ภาคการเกษตร ที่ทำให้สหกรณ์วิเศษชัยชาญได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการดังกล่าว ส่งผลให้มีรายได้จากการขายไฟฟ้าร่วมกับบีซีพีจี โดยสหกรณ์ฯ จะนำเงินรายได้จากโครงการไปจัดตั้งกองทุนให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกสหกรณ์ฯ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนในวงกว้าง และหวังว่าบีซีพีจีจะยังคงให้การสนับสนุนโครงการที่ดีและมีประโยชน์เช่นนี้ต่อไป
“นอกจากบีซีพีจีจะภูมิใจที่ได้ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน เรายังได้พิสูจน์ฝีมือในโครงการโซลาร์สหกรณ์ระยะที่ 1 ด้วยการเป็นรายแรกของประเทศที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2559 มาแล้ว สำหรับโครงการที่เราสนับสนุนในปีนี้ เราก็พร้อมที่จะเดินหน้าทันที และยังคงเน้นการใช้เทคโนโลยีทันสมัยระดับโลก มาช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการในประเทศหลากหลายรูปแบบ ซึ่งนอกจากโครงการโซลาร์สหกรณ์หรือราชการแล้ว ยังมีโครงการผลิตไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวลแบบผสมผสาน หรือ SPP ไฮบริดเฟิร์ม และ VSPP มินิไฮบริดเฟิร์ม และโซลาร์รูฟท็อป มีพันธมิตรจากหลากหลายสาขาที่พร้อมจะร่วมมือกับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศรวมทั้งสิ้นประมาณ 30 เมกะวัตต์” นายบัณฑิตกล่าวทิ้งท้าย